15 ที่เที่ยว ออสเตรีย เวียนนา สวยแทบหยุดหายใจ

ออสเตรีย เวียนนา - กำลังใกล้เข้าสู่เดือนแห่งความรักกันอีกครั้งแล้ว  กลื่นอายของความโรแมนติก และความสวยงามสุดน่าประทับใจก็เริ่มกลับเข้ามากระตุ้นโสตประสาทแห่งการเดินทางของนักเที่ยวทั้งหลายกันอีกครั้งแล้ว  ว่าแล้วต้นปีที่มาพร้อมไออากาศหนาวเย็นที่ช่วยทวีคูณความรู้สึกโรแมนติกให้มากยิ่งขึ้นอย่างนี้ ลองมาดู “15 ที่เที่ยว ออสเตรีย เวียนนา สวยแทบหยุดหายใจ”  ที่จะยิ่งทำให้การเที่ยวออสเตรีย  ดินแดนอันแสนโรแมนติกและสวยงาม ดูเป็นเรื่องง่าย  เพราะความอยากไปจนแทบทนไม่ไหวกันเลยดีกว่า

ถ้ามองหาการเที่ยวออสเตรีย เวียนนา  แบบสบาย ๆ ชิลล์ ๆ ตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นการเดินทางแล้วละก็  หาทัวร์ครบจบที่ทัวร์ครับ  คือคำตอบที่ใช่สำหรับทริปการเที่ยวออสเตรีย  เวียนนาในครั้งนี้ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในสไตล์การท่องเที่ยวแบบที่เป็นตัวคุณ

 

จองทัวร์ออสเตรีย เวียนนา  กับ ทัวร์ครับ คลิกเลย

1.ฮัลชตัทท์ 

หมู่บ้านโบราณเก่าแก่เล็ก ๆ ในแถบ Salzkammergut ริมทะเลสาบ  ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขาอันแสนโรแมนติก และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในพิกัดที่มีทัศนียภาพสวยงามที่สุดของแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย  กับความงดงามตามธรรมชาติสุดคลาสสิคของหุบเขาสูงที่โอบล้อมทะเลสาบอันนิ่งสงบที่มีน้ำใสราวกับกระจกคริสตัล ที่พร้อมสะท้องภาพความอลังการของขุนเขาใหญ่ที่มีหิมะสีขาวปกคลุมสวย ๆ ตรงหน้าให้เพิ่มความอลังการขึ้นอีกเป็นทวีคูณ  ไปพร้อม ๆ กับบรรยากาศอบอุ่น สบายเป็นกันเองของหมู่บ้านเก่าแก่เล็ก ๆ สุดน่ารักซึ่งเติมไปด้วยร่องรอยอารยธรรมของประวัติศาสตร์

พิกัด : Hallstatt

 

2.พระราชวังเชินบรุนน์ 

สถาปัตยกรรมสไตล์โรโคโคที่ใหญ่ที่สุดในประเทศออสเตรีย  ซึ่งมีต้นแยยมาจากพระราชวังแวร์ซายน์ในประเทศฝรั่งเศส เพียงแต่มีขนาดเล็กกว่า  ถึงแม้ว่า พระราชวังเชินบรุนน์ (Schoenbrunn Palace) แห่งนี้จะเป็นเพียงการจำลองพระราชวังแวร์ซายน์ของประเทศฝรั่งเศสมาในสเกลที่ย่อมกว่า  แต่ก็มีถึง 1,441 ห้องด้วยกัน ทั้งยังมีสวนสัตว์ที่เก่าแก่ที่สุดในโลก อย่าง Privy Garden สวนเขาวงกตหลายหลายแบบ อนุสรณ์หินอ่อนบนเนินเขาสูงถึง 60 เมตร  และยังเป็นพิกัดพิ้นที่อันเป็นมรดกโลกขององค์การยูเนสโก (UNESCO World Heritage) อีกด้วย พระราชวังแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยจักรพรรดิเลโอโปลด์ที่ 1 ในปีคริสตศักราช 1696 

พิกัด : Schoenbrunn Palace

 

3.พระราชวังฮอฟบวร์ก 

พระราชวังฮอฟบวร์ก (Hofburg Palace)  พระราชวังเดิมของราชวงศ์ฮอฟบวร์กในกรุงเวียนนา  มายาวนานกว่า 600 ปี ถูกสร้างขึ้นในปีคริสตศักราช 1275 ที่อันแน่นไปด้วยเรื่องราวในอดีตของกรุงเวียนนา  และทรงคุณค่าทั้งทางด้านประวัติศาสตร์ และด้านสถาปัตยกรรมอันงดงามตระการตา ด้วยความวิจิตรบรรจงในการออกแบบและตกแต่ง  ทั้งภายนอกและภายใน นอกจากนี้ยังเป็นพระราชวังที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลกอีกด้วย

พิกัด : Hofburg Palace

 

4.ป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บวร์ก 

สถาปัตยกรรมสุดอลังการในยุคกลางที่มีขนาดใหญ่และมีสภาพสมบูรณ์ที่สุดในทวีปยุโรป  กับป้อมปราการซึ่งตั้งสูงเด่นเป็นสง่าสะกดสายตาบนยอดเขาเฟสตุงบวร์กในเมืองซาลส์บวร์ก  ที่ระดับความสูง 506 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล ป้อมปราการโฮเฮนซาลซ์บวร์ก (Hohensalzburg)  ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1077  เพื่อเป็นที่พำนักพักพิงของเจ้าชยบิชอป อาร์คบิชอปเกบฮาร์ด (Erzbischof Gebhard)  ในอดีต ภายในโอ่อ่า กว้างขวางง อลังการ และสวยงามในแบบฉบับออสเตรีย และยังเป็นพิกัดชมทิวทัศน์เมืองในมุมสูงที่สวยงามยอดนิยมอีกด้วย

พิกัด : Hohensalzburg

 

5.มหาวิหารเซนต์สตีเฟน 

มหาวิหารในสถาปัตยกรรมสไตล์โกธิคอันเก่าแก่  ซึ่งตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางกรุงเวียนนา กับเอกลักษณ์เฉพาะตัวอันโดดเด่นด้วยหอคอยทรงแหลมสูง  และหลังคาโบสถ์ที่ได้รับการตกตแต่งลวดลายอย่างวิจิตรงดงามแปลกตาไม่เหมือนใคร ภายในโอ่อ่างดงามด้วยการออกแบบตกแต่งอย่างพิถีพิถันประณีตบรรจงในทุกตารางนิ้ว  และยังเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์พระบรมศพของจักรพรรดิฟรีดริชที่ 3 และเจ้าชายยูจีนแห่งซาวอยอีกด้วย นอกเหนือจากความอลังการทางสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมแล้ว บนยอดหอยคอยที่ความสูง 137 เมตร  ยังเป็นพื้นที่ชมวิวเมืองเวียนนามุมสูงสุดอลังการที่ไม่ควรพลาดจุดหนึ่งเลย

พิกัด : St. Stephens Cathedral

 

6.ศาลาว่าการกรุงเวียนนา 

ศาลาว่าการกรุงเวียนนา (Vienna City Hall)  แลนด์มาร์คอันโดดเด่นใจกลางกรุงเวียนนา  กับสถาปัตยกรรมสไตย์โกธิคที่เอกลักษณ์โดดเด่นสะกดสายตาด้วยอดแหลมสูงของหอคอย  ซึ่งมีความสูงถึง 97.9 เมตร ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1872 ทางด้านสถาปัตยกรรมได้รับการออกแบบโดย Friedrich von Schmidt นักออกแบบที่มีชื่อเสียงในยุคนั้น นอกจากนี้ลานด้านหน้าศาสลาว่าการเวียนนา  ยังเป็นพิกัดสุดไพรม์แห่งการเช็คอินท่องเที่ยว ด้วยเป็นพื้นที่จัดเทศกาลและงานสำคัญ ๆ ของกรุงเวียนนา อาทิ ลานสเก็ตน้ำแข็งกลางแจ้งในฤดูหนาว งานเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาส และเทศกาล Film festival & Summer cinema เป็นต้น

พิกัด : Vienna City Hall

 

7.พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ 

พิกัดอันเป็นสวรรค์ของผู้ ที่คลั่งไคล้  หลงใหลการเสพศิลป์ กับ พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ศิลปะ (Kunsthistorisches)  พิพิธภัณฑ์อันโดดเด่นตั้งแต่รูปลักษณ์ภายนอก  ด้วยสถาปัตยกรรมและศิลปกรรมในสไตล์บารอคสุดตระการตา  ทั้งภายในและภายนอกตกแต่งประดับประดาอย่างหรูหราอลังการด้วยหินอ่อน  รูปปั้น งานปะติมากรรม และผลงานศิลปของจิตรกรที่มีชื่อเสียงในยุโรปมากมาย  นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นสถานที่จัดแสดงของสะสม ทรัพย์สมบัติและของมีค่าในราชวงศ์ฮอฟบวร์กเอาไว้อีกด้วย

พิกัด : Kunsthistorisches

 

8.บ้านโมสาร์ท 

เมื่อเอ่ยถึงออสเตรีย  ก็คงไม่เอ่ยถึงความสุนทรีย์แห่งดนตรีคลาสสิคไปไม่ได้  ด้วยเป็นประเทศบ้านเกิดของนักดนตรีคลาสสิคระดับโลกหลากหลายคน  โดยเฉพาะบิดาแห่งดนตรีคลาสสิคอย่าง โมสาร์ท ปู่เป็นอัจฉริยะทางด้านดนตรี  มาถึงออสเตรียทั้งที ผู้ที่หลงใหลและชื่นชอบในดนตรีคลาสสิคต้องไม่ควรพลาด มาสัมผัสชีวิตเสมือนจริงของคีตกวีเอกของโลกที่  บ้านโมสาร์ท (Mozart Birthplace)  หรือ  พิพิธภัณฑ์โมสาร์ทเกเบิร์ตสเฮาส์ (Mozart Geburtshaus) ซึ่งตั้งอยู่บนถนน Getreidegasse  ในเมืองซาลส์บวร์ก ประเทศออสเตรีย  ภายในจัดแสดงภาพวาด เครื่องดนตรี ประวัติชีวิต  และผลงานของ โวล์ฟกัง อะมาเดอุส โมซาร์ท เอาไว้ในบรรยากาศแบบบ้านเดิม ๆ เหมือนในสมัยที่ครอบครัวของโมสาร์ทเคยอาศัยอยู่

พิกัด : Mozart Birthplace

 

9.โรงอุปรากรเวียนนา 

โรงอุปรากรเวียนนา (Vienna State Opera)  หรือ วีเนอร์ สตาทโซเพอร์ (wiener Staatsoper) โรงอุปรากรที่มีชื่อเสียง  และได้รับการยอมรับมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก  ให้สมกับการเป็นโรงอุปรากรของเมืองแห่งศิลป์และดนตรีคลาสสิค  ตั้งอยู่ใจกลางของริงชตรา เด่นสะกดสายตาด้วยสถาปัตยกรรมสไตล์เรอเนสซองส์  และสิ่งก่อสร้างอันยิ่งใหญ่แห่งแรกของเมือง ภายในตกแต่งอย่างเว่อร์วังหรูหรา  ด้วยการปิดทอง งานศิลป์ และปะติมากรรมตั้งแต่พื้นจรดเพดาน มาถึงถิ่นดนตรีคลาสสิคทั้งทีแล้ว  จึงไม่ควรพลาดการเยี่ยมเยือนดื่มด่ำบรรยากาศของโอเปร่าที่แท้ทรูฉบับออริจินอลกันสักครั้งเป็นการยกระดับหู  และจิตใจ

พิกัด : Vienna State Opera

 

10.ชิงช้าสวรรค์แห่งสวนสนุกพราเตอร์

เปลี่ยนบรรยากาศมาสู่ความโรแมนติกแบบคลาสิคสไตล์ออสเตรียกันบ้าง  กับ ชิงช้าสวรรค์แห่งสวนสนุกพราเตอร์ (Giant Ferris Wheel in Prater)  หนึ่งในชิงช้าสวรรค์ที่ติดอันดับว่าเป็นชิงช้าสวรรค์ที่เก่าแก่ที่สุดของโลก  ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1897 รวมแล้วมีอายุมาอย่างยาวนานนับ 123 ปี เดิมที่ตั้งใจสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองงานสิริราชสมบัติครบ 50 ปีของจักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 ซึ่งปัจจุบันนอกจากมีชื่อเสียงในเรื่องความคลาสสิคสุดขลังที่มีมาแต่โบราณ  และเป็นเครื่องเล่นแสนโรแมนติกในสวนสนุกแล้ว ยังเป็นจุดชมวิวเมืองมุมสูงที่สวยงานอีกด้วย

พิกัด : Giant Ferris Wheel in Prater

 

11.กราซ

กราซ (Graz)  เมืองใหญ่แสนสงบ  กับเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่สองของออสเตรีย  รองจากกรุงเวียนนา มีภูเขาเล็กๆ และแม่น้ำเมอร์ (Mur) ไหลผ่าน  นับเป็นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่ในสมัยยุคกลางที่ผสมผสานถาปัตยกรรมยุคกลางเข้ากับสถาปัตยกรรมแบบโมเดิร์นได้เป็นอย่างดี  เมืองเก่าสุดคลาสสิคที่ได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกจากองค์การยูเนสโก้ในปี 1999 และยังได้รับการยกให้เป็นเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรมของยุโรป  ในปี 2003 อีกด้วย กับสถาปัตยกรรมสุดคลาสสิคจากหลากหลายยุคสมัย ทั้งแบบโกธิค เรอเนสซองซ์ และบารอค อันสวยงาม มีเสน่ห์ และทรงคุณค่า

พิกัด : Graz

 

12.หมู่บ้านอัลพ์บัช

ย้ายออกมาสู่ชานเมือง  และย่านชนบทสวย ๆ กันบ้างกับ  หมู่บ้านอัลพ์บัช (Alpbach)  หมู่บ้านเล็ก ๆ สุดน่ารักและแสนอบอุ่นบนที่ราบสูงที่ระดับความสูงกว่า 1,000 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล  ซึ่งซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางหุบเขา และทุ่งหญ้าสีเขียวขจีกว้างไกลสุดสายตา อันเป็นหมู่บ้านที่ได้ชื่อว่า  หมู่บ้านที่สวยที่สุดในออสเตรีย และยังเป็นหมู่บ้านแห่งทุ่งดอกไม้ที่สวยที่สุดในยุโรปอีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นโลเคชั่นสวย ๆ สุดน่ารัก  แสนโรแมนติก จนแทบต้องหยุดหายใจเลยจริง ๆ 

พิกัด : Alpbach

 

13.ซาลซ์คัมเมอร์กุท

ซาลซ์คัมเมอร์กุท (Salzkammergut) ดินแดนแห่งทะเลสาบซึ่งโอบล้อมด้วยเทือกเขาแอลป์และภูเขามากมาย  ห้อมล้อมด้วยทะเลสาบอันมีชื่อเสียงของออสเตรียอย่างทะเลสาบโวล์ฟกัง (Wolfgangsee)  กับทำเลที่ตั้งที่ถูกจัดให้เป็นภูมิภาคที่สวยที่สุดในออสเตรีย ด้วยความงดงามทางธรรมชาติอันอุดมสมบูรร์ของที่นี่ศึ่งสวยงามราวกับภาพฝันในเทพนิยาย  จึงทำให้พิกัดแห่งนี้เป็นดั่งสวรรค์ของคนรักธรรมชาติ ที่สักครั้งในชีวิตต้องมาเช็คอินให้ได้สักครั้งจริง ๆ

พิกัด : Salzkammergut

 

14.เซลล์ อัม ซี

เซลล์ อัม ซี (Zell am See)  อีกหนึ่งพิกัดสุดชิลล์  แสนโรแมนติก และอบอุ่น น่ารัก  เงียบสงบ เป็นส่วนตัว ท่ามกลางความอลังการทางธรรมชาติของออสเตรีย  ที่รังสรรค์ดินแดนที่มีทัศนียภาพสวยงามเหนือจินตนาการ ของโลเคชั่นท่ามกลางขุนเขาสูง  ที่โอบล้อมรอบทะเลสาบสีฟ้าคราม ทุ่งหญ้าสีเขียวขจี ร่มรื่น สบายตา และมวลหมู่ทุถ่งดอกไม้สีสันสดใส  ที่จะช่วยแต่งแต้มสีสันในวันสบาย ๆ อันแสนโรแมนติกแห่งนี้ดูมีชีวิตชีวาไปพร้อม ๆ กันในคราวเดียว

พิกัด : Zell am See

 

15.เส้นทางไฮอัลไพน์กรอสกล็อกแนร์ 

ปิดท้ายกันด้วยเส้นทางแสนโรแทชมนติกที่สุดของออสเตรีย  ซึ่งติดอันดับ 1 ใน 10 ของถนนที่มีความโรแมนติกที่สุดในโลก  กับ เส้นทางไฮอัลไพน์กรอสกล็อกแนร์ (Grossglockner High Alpine Road) ถนนที่อายุกว่า 80 ปีมาแล้วที่ทอดตัวยาวมุ่งสู่ยอดเขาที่สูงที่สุดในออสเตรีย  ที่ระดับความสูงถึง 3,798 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล และมีความยาวมากถึง 48 กิโลเมตร กับเส้นทางท่องเที่ยวในฝัน ที่มีทัศนียภาพสวยงามสุด ๆ ท่ามกลางทิวภูเขาสวยๆ ทุ่งหญ้เรียบเตียนาสีเขียว ทุ่งดอกไม้สีสันสดใส ลำธาร และธารน้ำแข็งขนาดใหญ่สุดอลังการ  ที่ทอดตัวผ่านเมืองเล็กๆ หลายเมืองและธรรมชาติที่สวยจนยากจะละสายตา

พิกัด : Grossglockner High Alpine Road

 

ครบกันแล้วกับ  “15 ที่เที่ยว ออสเตรีย เวียนนา สวยแทบหยุดหายใจ”  ของทัศนียภาพสุดสตั้นท์ของพิกัดโลเคชั่นสวย ๆ ในออสเตรียทั้งทางด้านสถาปัตยกรรม  และทางธรรมชาติ ที่ต้องบอกว่าไม่ว่าคุณจะเป็นนักเที่ยวสายไหน ยังไงก็ต้องตกหลุมรักออสเตรียกันได้ง่าย ๆ อย่างแน่นอน